“ความฝันมันไม่บูด แต่อย่าฝันอยู่เฉยๆ"
ในช่วงหนึ่งหนังสือเป็นสื่อที่ทรงพลังและมีบทบาทในสังคม ใครอยากรู้ข่าวสารสาระอะไร แฟชั่นใหม่เทรนสินค้าใหม่ก็ต้องเปิดอ่านจากหนังสือ หนังสือสมัยนั้นจะออกกันเป็นรายสัปดาห์ รายปักษ์ รายเดือน นานครั้งก็จะออกเล่มพิเศษสักครั้งหนึ่ง ทำให้นักอ่านจดจ่อเฝ้ารอหนังสือเล่มโปรดวางจำหน่าย
สำหรับดาราศิลปินสมัยก่อนก็ต้องอาศัยสื่ออย่างหนังสือในการช่วยดันช่วยโปรโมทตัวเองไม่ให้หายไปจากกระแส ต่างกับสมัยนี้ที่ทุกคนมือสื่ออยู่ในมือหยิบจับอะไรได้ก็สามารถเอามาลง มาเขียน มาโชว์ มาวิจารณ์ได้โดยไม่ต้องรอต้องง้อใคร ในสมัยก่อนจึงเปรียบเทียบไว้ว่า "ใครมีสื่อในมือเหมือนมีปากกาเป็นอาวุธ" สมัยนี้ทุกคนก็เลยพกอาวุธไล่ฟาดฟันกัน จนลืมไปว่าเมื่อใช้อาวุธไล่ฟาดฟันใครก็ย่อมต้องได้รับแรงสะท้อนกลับด้วย(ร้านดอกไม้ ทนาย ศาล งานชุกขึ้น)
ช่วงนั้นนักเขียนจะเก่งแค่ไหนถ้าเป็นผีไม่มีศาล ไม่มีสำนักพิมพ์ไหนรับงานมันก็ไม่เกิด ได้แต่นั่งเขียนงานในมุมบ้านแล้วก็อ่านเอง ซึ้งเองขำเอง(ฮา)
แต่ในสมัยนี้นักเขียนสามารถสร้างสื่อในมือของตัวเองได้ผ่านในช่องทางต่างๆโดยแทบไม่ต้องง้อสำนักพิมพ์ใหญ่ ทำให้หลายคนมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
"ความฝันไม่มีวันหมดอายุ" เมื่อเราเป็นนักเขียนแม้นอาชีพนี้อาจจะไม่สามารถสร้างรายได้มากมายให้ทุกคน แต่เราทุกคนก็มีความสุขกับความฝันของเรา มุ่งมั่นทำงานของเรา และเผยแพร่สร้างสรรค์ผลงานของเรา แม้นบางครั้งผลงานจะไม่โด่งดังแต่นักเขียนหลายคนกลับมีความสุข
เพราะอาชีพนักเขียนไม่ว่าจะแนวไหนถ้าไม่โด่งดังก็คงยากที่จะมีรายได้จากยอดขายเป็นกอบเป็นกำ แต่อาชีพนักเขียนมันก็ยังคงเป็นฝันของอีกหลายคน
"ความฝันไม่ปูดเน่าแม้นจะกินไม่อิ่มก็เหอะ"(ฮา)
การ์ตูนตลก เพื่อให้คนไทยมีรอยยิ้ม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น