โดยความคิดเห็นส่วนตัวการวาดภาพการ์ตูนสำหรับผมมันมีอะไรมากมายที่จะต้องเรียนรู้กับเทคนิคใหม่ๆรวมถึงรูปแบบแนวทางเทคนิคต่างๆอย่างไม่จบสิ้น ดังนั้นไม่ว่าจะเคยเขียนการ์ตูนมานานเท่าไหร่ผมก็ยังรู้สึกว่าเรายังไม่ถึงจุดสูงสุด ยังมีอีกหลายอย่างให้เราต้องค้นหา และต้องพยามเพิ่มเติมความสามารถของเราตลอดเวลา
สำหรับคนที่สนใจจะเป็นนักวาดการ์ตูน นักวาดภาพประกอบจะต้องเข้าใจว่าเทคนิคในการวาดภาพรวมแนวทางของภาพการ์ตูนไม่มีแนวทางไหนดีที่สุด เพราะภาพวาดการ์ตูนในแต่ละแนวแต่ละเทคนิคมันเหมาะกับงานแต่ละประเภท มันมีองค์ประกอบในหลายส่วนทั้งกลุ่มเป้าหมาย ลูกค้า(ผู้ที่จ้างเราวาด) ช่วงอายุของคนอ่าน แนวเนื้อเรื่องของการ์ตูนที่เราเขียนรวมถึงความชอบส่วนตัวของผู้ตรวจงานเรา(ฮา) ซึ่งทั้งหมดจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของการวาดการ์ตูนของเราว่าจะไปในลักษณะไหน หรือพูดง่ายๆ "อย่าเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง อย่าคิดว่าเราคือศูนย์กลางของจักรวาล"
ดังนั้นหากเราจะก้าวเข้ามาในเส้นทางของนักวาดการ์ตูนอย่าไปยึดแค่ว่าต้องวาดแบบมังงะ(ญี่ปุ่น) หรือต้องวาดแนวคอมมิกแบอเมริกัน หรือแนวการ์ตูนขายหัวเราะแบบไทย เท่านั้น เพราะทุกอย่างมันขึ้นกับหน้างานที่เราต้องทำ จำไว้ว่าอย่ายึดติดกับแนวหรือตัวบุคลที่เป็นไอดอลของเราจนเกินไป แต่ให้มองว่าเราจะทำงานแบบไหนจึงจะเหมาะสม ความเหมาะสมเป็นเรื่องที่ศิลปินที่มีอีโก้ในตัวสูงมักจะมองข้ามหรือไม่ยอมรับหรือไม่ยอมเข้าใจ แต่คำว่า"ความเหมาะสม"ในส่วนของนักการตลาดแล้วมันต่างกันออกไป นักการตลาดไม่ใช่ศิลปินดันนั้นพวกเขาจะมองเพียงความเหมาะสมว่างานนั้นเมื่อทำแล้วขายได้หรือไม่ ส่วนศิลปินอาจจะมองว่างานแบบนั้นมันห่วยและไม่เจ๋งหรือกระจอก แต่เราต้องไม่ลืม "เราต้องทำมากินเลี้ยงปากท้องดังนั้นงานจึงต้องเป็นงานที่ขายได้ในวันนี้ไม่ใช่ตอนที่เราตายไปแล้ว"...เข้าใจตรงกันครับสำหรับคนที่อยากจะมาเดินบนเส้นทางนี้ ถ้ามัวแต่คิดว่าฉันเจ๋งเก่งที่สุด เวลาไปรับบรีฟงานก็ดันพกอีโก้ติดตัวสวมหัวโขนไปคุยงานกับลูกค้าก็เตรียมบ๋ายบายรายได้ตรงนั้นได้เลย เพราะคนจ่ายเงินไม่ใช่พวกเขาไม่มีอีโก้...และที่แน่นๆหากลูกค้าเหม็นเน่ารังเกียจอีโก้ของคุณ เขาก็จะแสดงอีโก้ของพวกเขาออกมาว่า "ทำไมกรูต้องจ้างเมิง มีคนเก่งๆที่อยากได้งานอีกเยอะแยะ ไม่อยากทำก็ไสหัวไป(ฮา)"
BuffToon
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น