มีอยู่ช่วงหนึ่งของชีวิตที่ผมได้ทำงานประกันชีวิต ไม่ได้เขียนรูปการ์ตูนให้เขานะ แต่เป็นตัวแทนขายประกันชีวิต หลักๆก็เริ่มจากอยากซื้อประกันให้ตัวเองนั่นล่ะ เพราะอาชีพนักเขียนการ์ตูนนั้นมันไร้สวัสดิการเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมาก็ลำบากอีกทั้งผมมันพวกชอบลั่นล้า ชีพขจรลงบาทา ชอบขับรถเร็ว ชอบขี่รถมอเตอร์ไซด์เที่ยว ก็เลยกลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุจากการใช้ชีวิต ครั้งจะพึ่งบริการสามสิบบาทตายห่าทุกโรคก็ไม่ไหว หรือจะพึ่งประกันสังคมก็ไม่แนวเลยตัดสินใจทำประกันชีวิต และเมื่อทำประกันชีวิต+ประกันสุขภาพ+ประกันอุบัติเหตุ หลังจากนั้นชีวิตผมก็โชคดีมาร์คคคคค... เพราะมีอันต้องรถคว่ำกลิ้งโค่โล่โหม่งเสาไฟฟ้า เจ็บสาหัสพักฟื้นอยู่ร่วมปี(น้องๆเพื่อนๆที่เคยอยู่ขายหัวเราะกับผมช่วงนั้นคงจำกันได้) นอนโรงพยาบาลค่าใช้จ่ายวันละเป็นพันแถมเม่งนอนเป็นเดือนๆ ต้องเข้าออกๆห้องผ่าตัดหลายครั้งหมดเป็นแสน แถมยังต้องมาทำกายภาพบำบัดอีกเป็นปี
เลยมานั่งนึกว่านี่ถ้าเราไม่ทำประกันชีวิตไว้มันจะเป็นอย่างไร จะเอาเงินจากไหนมาจ่ายในช่วงที่เราไม่มีรายได้(พ่อแม่ก็ไม่ได้ร่ำรวย) แล้วถ้าไปกู้หนี้ยืมเงินเขามาเราคงจะต้องมาทำงานใช้หนี้กันอีกนาน ทุกวันนี้เวลามีคนถามเรื่องประกันชีวิต ผมก็จะแนะนำและบอกว่าพวกเขาว่า "มึงซื้อไปเหอะประกันชีวิต เบี้ยทั้งปีน้อยกว่าที่มึงเอาไปตะแล็ะแต๊ะเต๋เสียอีก ไม่ห่วงชีวิตตัวเองก็ห่วงคนที่ต้องมารับภาระแทนเอ็งเหอะ ทำไปพอครบอายุกรมธรรม์ก็ยังได้เงินคืน แต่ชีวิตมึงน่ะตายไปไม่ได้คืน ตายแล้วยังเป็นภาระคนเป็นต้องมารับกรรมต่อจากมึงอีก" มีเพื่อนๆพี่น้องๆบางคนในสมัยนั้นก็ยังเถียงผมว่าไม่จำเป็น สิ้นเปลือง วันนั้นผมไม่เถียงด้วยนะแต่วันนี้มันพิสูจน์ให้เห็นจากความมั่นคงในชีวิต ไม่ได้ร่ำรวยแต่ทรัพย์สินที่มีมันไร้หนี้สิน นี่ล่ะการใช้ชีวิตเต็มที่กับมัน แต่ก็ต้องฉลาดที่จะใช้ ไม่ต้องอ้างว่ากรูติสส์และกรูจะตายอย่างติสส์ เพราะคนข้างหลังมึงเขาอาจจะไม่ติสส์อย่างมึงนะเพื่อน
BuffToon
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น