จั่วหัวมาแบบนี้ไม่ได้เจตนาจะดราม่าหรือตำหนิใครนะครับ แต่อยากจะบอกว่ายุคนี้มันเป็นแบบมันเป็นนี้จริงๆ โดยเฉพาะในโลกโซเชลี่ยลทั้งหลาย ก็เอาเหอะนะใครอยากจะทำอะไรก็ทำกันไปไม่ได้ว่าเพราะสมัยนี้มันไม่เหมือนสมัยก่อนที่การถ่ายรูปสักใบนั้นมันต้องคิดเยอะเพราะกล้องมันใช้ฟิลม์ และฟิลม์ม้วนหนึ่งถ่ายได้36ภาพ ไม่เหมือนยุคดิจิตอลที่มือถือก็ถ่ายได้เป็นร้อยๆภาพ คนเราก็เลยสามารถถ่ายภาพได้แบบไม่ต้องคิดไม่ต้องกลัวเปลืองเพราะมันถ่ายแล้วเก็บไว้ในเมมโมรี่การ์ด ไม่ชอบก็ลบทิ้ง แตกต่างกับยุคกล้องฟิลม์ที่กว่าจะถ่ายภาพแต่ละครั้งเล็งแล้วเล็งอีกเพราะค่าฟิมล์ก็แพงยังมีค่าล้างอัดรูปอีก มันก็เลยไม่ค่อยมีใครจะหลงมาถ่ายเซลฟี่หน้าตัวเองทั้งวันแบบนี้ (ฮา)
วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2558
ยุคที่คนเราหลงตัวเองที่สุด
จั่วหัวมาแบบนี้ไม่ได้เจตนาจะดราม่าหรือตำหนิใครนะครับ แต่อยากจะบอกว่ายุคนี้มันเป็นแบบมันเป็นนี้จริงๆ โดยเฉพาะในโลกโซเชลี่ยลทั้งหลาย ก็เอาเหอะนะใครอยากจะทำอะไรก็ทำกันไปไม่ได้ว่าเพราะสมัยนี้มันไม่เหมือนสมัยก่อนที่การถ่ายรูปสักใบนั้นมันต้องคิดเยอะเพราะกล้องมันใช้ฟิลม์ และฟิลม์ม้วนหนึ่งถ่ายได้36ภาพ ไม่เหมือนยุคดิจิตอลที่มือถือก็ถ่ายได้เป็นร้อยๆภาพ คนเราก็เลยสามารถถ่ายภาพได้แบบไม่ต้องคิดไม่ต้องกลัวเปลืองเพราะมันถ่ายแล้วเก็บไว้ในเมมโมรี่การ์ด ไม่ชอบก็ลบทิ้ง แตกต่างกับยุคกล้องฟิลม์ที่กว่าจะถ่ายภาพแต่ละครั้งเล็งแล้วเล็งอีกเพราะค่าฟิมล์ก็แพงยังมีค่าล้างอัดรูปอีก มันก็เลยไม่ค่อยมีใครจะหลงมาถ่ายเซลฟี่หน้าตัวเองทั้งวันแบบนี้ (ฮา)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น