วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2557

Star Wars ในความทรงจำของผม

หนังเรื่อง star wars ออกฉายครั้งแรกในปี 1977 คุณพ่อกับคุณแม่ผมพาผมไปดูหนังเรื่องนี้ถึงแม้นตอนนั้นผมจะเด็กอยู่มากแต่ก็จำได้เพราะผมชื่นชอบหนังเรื่อง Star wars มากมันเป็นหนังที่ฉีกภาพเก่าๆของหนังอวกาศในยุค60-70ไปเลย โดยเฉพาะดีไซด์ตัวยานอวกาศ หนุ่ยนต์อย่าง R2D2 หรือเจ้าหุ่นสีทองช่างจ้ออย่าง ซี-ทรีพีโอ. C-3PO และเหล่าตัวมนุษย์ต่างดาวต่างๆ ทำให้คนที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ในยุคนั้นตื่นตาตื่นใจมากๆ แม้นจะถูกถ่ายทำด้วยเทคนิค stop motion ที่สมัยนี้อาจจะบอกว่ามันเชยและเสียเวลามาก แต่ในช่วงนั้นเทคนิคการถ่ายทำนี้ได้สร้างชื่อให้กับผู้กำกับไฟแรงอย่าง จอร์จ ลูคัส

และที่ผมจำได้อีกอย่างเกี่ยวกับหนังเรื่องสตาร์วอร์สนี้นอกจากเทคนิคพิเศษในการถ่ายทำแล้ว ระบบ Sound effects หรือการสร้างเสียงสเปเชลี่ยแอฟเฟ็คต่างๆก็สุดยอดมากๆเพราะหากคุณตั้งใจดูหนังเรื่องนี้จะเห็นว่ามีรายละเอียดของเสียงต่างๆเยอะมาก รวมถึงเสียงที่เราคุ้นเคยอย่างเสียงของชิวเบคคา หรือที่ กัปตันฮัน โซโล จะเรียกว่า "ชิวอี้" (ชิวอี้ ถ้าเพื่อนๆนึกไม่ออกก็นึกถึงเจ้าตัวละครในสามตอนแรกที่ดูคล้ายๆมนุษย์หิมะนั่นล่ะครับ) และสมัยเด็กผมเคยดูหนังสารคดีการถ่ายทำหนังเรื่องสตาร์วอร์สทางทีมงานได้พยามบันทึกเสียงต่างไม่ว่าจะจากสัตว์ จากสิ่งของหรือจากโลหะ เพื่อพัฒนาเป็นเสียงเอฟเฟ็คต่าง เช่นเสียงปืนเลเซอร์ ซึ่งกลายมาเป็นพื้นฐานเสียงของหนังแนวนี้โดยการใช้โลหะเคาะที่ลวดสลิงเสาไฟฟ้าแล้วบันทึเสียงของมันมาเพื่อนำมาปรับแต่งเป็นเสียงปืนเลเซอร์ในภาพยนต์สตาร์วอร์ส หรือเสียงของชิวอี้ก็จะมาจากเสียงของหมีกับวอรัส (ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ)

สตาร์วอร์สประสบความสำเร็จในแง่ของภาพยนต์อย่างมากทำให้ต่อมามีการจัดพิมพ์หนังสือการ์ตูนและของเล่นของสะสมมากมายเกี่ยวกับสาตร์วอร์สและผมเองก็เคยซื้อของเล่นสตาร์วอร์สและหนังสือการ์ตูนเรื่องสตาร์วอร์สเอาไว้ด้วยเช่นกัน แต่เสียดายที่ผมไม่ได้ดูแลหนังสือและของเล่นพวกนั้นดีพอทำให้มันสูญหายไป นี่ถ้าเก็บไว้คงขายได้หลายตังค์(ฮา)

Star Wars จะบอกว่ามันเป็นหนังที่แปลกก็ได้เพราะถ้าใครเคยได้ดูจะเห็นว่าหนังมันสร้างถอยหลัง นั่นคือตอนแรกที่ฉายใน3ตอนแรก1977-1980-1983 กลับเป็นเหมือนตอนจบของสตาร์วอร์ส ส่วนตอนต่อมาหนังได้เว้นระยะไปนานมากร่วมสิบกว่าปีจึงมีตอนใหม่กำเนิดขึ้นในปี1999-2002-2005-2008 ซึ่งแต่ละตอนจะเว้นระยะ3ปีเหมือนในช่วง3ตอนแรกที่เริ่มฉาย และตอนหลังที่เริ่มตั้งแต่ปี1999 กลับเป็นเหมือนเริ่มย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นของสงครามสตาร์วอร์สซะงั้น มันก็อาจจะดูแปลกๆเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเป็นเทคนิคการนำเสนอหรือเพราะอยากตอบโจทย์ที่มาที่ไปของหนังเรื่องนี้ก็ม่รู้เหมือนกัน
ดังนั้นถ้าจะเรียงลำดับของหนังเรื่องนี้หากต้องการดูแบบต่อเนื่องเข้าใจมันจะออกมาแบบนี้ครับ



ตอนที่1: 
สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 1: ภัยซ่อนเร้น (The Phantom Menace) (19 พฤษภาคม พ.ศ. 2542)
ตอนที่2: 
สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 2: กองทัพโคลนส์จู่โจม (Attack of the Clones) (16 พฤษภาคม พ.ศ. 2545)
ตอนที่3: 
สตาร์ วอร์ส: สงครามโคลน (The Clone Wars) (15 สิงหาคม พ.ศ. 2551)
ตอนที่4: 
สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 3: ซิธชำระแค้น (Revenge of the Sith) (19 พฤษภาคม พ.ศ. 2548)
ตอนที่5: 
สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 4: ความหวังใหม่ (A New Hope) (25 พฤษภาคม พ.ศ. 2520) ในประเทศไทย เดิมใช้ชื่อว่า สตาร์ วอร์ส
ตอนที่6:
สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 5: จักรวรรดิเอมไพร์โต้กลับ (The Empire Strikes Back) (21 พฤษภาคม พ.ศ. 2523) ในประเทศไทย เดิมใช้ชื่อว่า สตาร์ วอร์ส 2
ตอนที่7:
สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 6: การกลับมาของเจได (Return of the Jedi) (25 พฤษภาคม พ.ศ. 2526) ในประเทศไทย เดิมใช้ชื่อว่า สตาร์ วอร์ส 3 ชัยชนะของเจได


นอกจากนั้นสตาร์วอร์สยังได้สร้างตัวละครน่ารักๆเหมือนหมีขนปุกปุยตัวเล็กๆแต่มีชีวิตที่น่าเศร้าขึ้นมากลุ่มหนึ่งที่มีชื่อว่า Ewoks และตัวละครเหล่านี้ก็ได้มีการนำมาเป็นหนังแยกย่อยอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเคยเข้ามาฉายในเมืองไทยด้วยแต่ผมจำปีและชื่อเรื่องไม่ได้แล้ว ถึงแม้นบางคนอาจจะบอกว่าเบื่อหนังเรื่องนี้แต่หลายคนก็ยังคงหลงเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้อยู่ สำหรับผมหนังเรื่องนี้คือความทรงจำตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่ มันเป็นความสุขกับการได้นั่งดูหนังที่เราชื่นชอบ ได้จินตนาการไปกับมันและที่สำคัญ มันทำให้ผมมีความสุข


BuffToon

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น